 |
Hotel H2O, Manila Philippines |
ลักษณะเด่นของงาน Classic style ถ้าเป็นงานไม้ จะมีการกลึง เซาะร่อง และแกะรายละเอียด มีการย้อมสีไม้ที่เน้นงานประณีพ มีการโชว์ลายไม้หรือทำให้ดูเก่าผสมทองแบบมีสไตล์ มีการใช้ผ้าบุเฟอร์นิเจอร์ที่ Texturecc และลวดลายชัดเจน หรือใช้หนังแท้ผสมผสานกับการตอกหมุดทองเหลืองซึ่งเป็น Detail ของ รูปแบบเฉพาะถ้าเป็นงานตกแต่งเน้นสีโทนสว่าง เช้น การใช้สีพ่นซึ่งต้องผ่านขั้นตอนการทำหลายขั้นตอน หลายกระบวนการ จนได้ผิวสัมผัสที่เรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน งานพื้นถ้าเป็นหินก็จะใช้หินอ่อนหรือหินแกรนิตมาตัดทำลายให้สอดคล้องกับ พื้นที่ห้องและฝ้าเพดาน หรือเรียกว่า inlay ในปัจจุบันมีการทำเป็นชิ้นสำเร็จรูปให้เลือกใช้ได้อย่างสะดวง มีการใช้ม่านที่จับจีบระบาย หรือกุ๊นด้วยเชือกเกลียวอย่างเข้าชุดกัน
ผู้ที่ชื่นชอบในการตกแต่งแบบ Classic styleคงต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าต้องการดีกรีความชัดเจนขนาดไหนและอีกทั้ง ต้องคำนึงถึงผัจจัยหลายๆอย่างที่มาประกอบกันเพื่อให้เกิดความลงตัว และเหมาะสม
มีหลักง่ายๆเบื้องต้นในการพิจารณาคือ
- ยุคสมัยของสไตล์ Classic ที่คุณชื่นชอบ
อาจจะปรึกษาผู้รู้สึกในเรื่องของยุคสมัยเพื่อเป็นแนวทางหรือจุดเริ่มต้น
- สถานทืที่จะทำการตกแต่ง
ซึ่ง Classic style ถ้าฝ้าเพดานสูงจะดูสง่า ภูมิฐานเพราะถ้าฝ้าเพดานต่ำมาก อาจต้องลด Detail บางส่วนลงให้เหมาะสม
- องค์ประกอบต่างๆ ของการประดับตกแต่ง
ต้องเลือกให้เข้ากันในแต่ละส่วนเช่น อุปกรณืมือจับ กลอน โคมระย้า หรือแม้กระทั้งกรอบรูปประดับผนัง
- การเลือกผู้รับเหมาตกแต่ง
คงต้องเลือกดูผู้ที่มีความเชียวชาญด้านนี้โดยเฉพาะมีช่างสีเฟอร์นิเจอร์ที่มีประสบการณ์ตรง
- การดูแลรักษา
ซึ่งต้องให้ความสำคัญมากเกี่ยวกับน้ำยาทำความสะอาด เลือกดูสุดท้ายถ้าต้องใช้มัณฑนากร ผู้ออกแบบ คงต้องเลือกผู้ที่มีความถนัดในงาน Classic style เพราะจะได้ตอบโจทย์ได้ตรงครับ
